การผลิตไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม

0
1896

เมื่อวันที่ 24 กันยายน เครือข่ายสื่อมวลชนไทยใส่ใจทางเลือกใหม่พลังงานไฟฟ้า ได้มีโอกาสไปดูงานการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือกอีกครั้ง โดยครั้งนี้ได้ไปดูงานโรงไฟฟ้าที่ผลิตไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมของ บริษัท รีคัฟเวอรี่ เฮ้าส์ จำกัด ที่อำเภอเสนา จังหวัดอยุธยา

โรงไฟฟ้าแห่งนี้มีกำลังการผลิต 7 เมกะวัตต์ ผลิตไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมที่รวบรวมมาจากโรงงานทั่วประเทศ โดยนำขยะเหล่านี้อันได้แก่ ยาง ผ้า หนัง กระดาษ พลาสติก และไม้ มาสับละเอียดรวมกันเพื่อแปรรูปเป็นแท่งเชื้อเพลิง (Refuse Derived Fuel หรือ RDF) ก่อน เพื่อควบคุมความร้อนเวลาเผาไหม้ ให้แท่งเชื้อเพลิงเหล่านี้ให้ความร้อนที่สม่ำเสมอ

ไฟฟ้าที่ผลิตได้ ส่วนหนึ่งนำมาใช้ในโรงงานประมาณ 2 เมกะวัตต์ ที่เหลืออีก 5 เมกะวัตต์ขายเข้าระบบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

เทคโนโลยีการผลิตใช้เทคโนโลยีการเผาไหม้เตาเผาแบบตะกรับเคลื่อนที่ (Step Grate) ซึ่งควบคุมอุณหภูมิห้องเผาสูงถึง 850-900 องศาเซลเซียส ทำให้เผาไหม้ได้หมดจด จนปล่อยมลภาวะออกทางปล่องระบายความร้อนน้อยมาก

นอกจากนั้นยังมีการเติมออกซิเจนอีก 3% เพื่อช่วยกำจัดสารประกอบไดออกซิน ทั้งยังมีการติดตั้งเครื่องกรองก๊าซและฝุ่นละอองต่างๆที่เกิดจากการเผาใหม้ ก่อนระบายออกทางปล่องหม้อไอน้ำ ซึ่งมีการติดตั้งเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบต่อเนื่อง (CEMs) เพื่อตรวจวัดค่าฝุ่นละอองรวม (TSP) และก๊าซมลพิษต่างๆ เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) ไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) และ คาร์บอนมอนนอกไซด์ (CO) เป็นต้น

โดยค่าเหล่านี้จะถูกส่งออนไลน์ไปยังกรมควบคุมมลพิษ และแสดงไว้ที่จอมอนิเตอร์หน้าโรงงาน เพื่อให้ชุมชนตรวจสอบได้ ส่วนน้ำที่ระบายออกมาก็นำกลับไปใช้ใหม่ และเถ้าที่เหลือจากการเผาไหม้ทั้งเถ้าหนักและเถ้าเบาก็จะถูกส่งให้หน่วยงานที่ได้รับอนุญาตจากทางราชการรับไปกำจัดหรือใช้ประโยชน์ต่อไป

จากการสังเกตการณ์ของกลุ่มเครือข่ายสื่อมวลชนฯที่ไปดูงานในวันดังกล่าว เราพบว่าโรงไฟฟ้ามีความสะอาดมาก ไม่มีกองขยะกองเป็นภูเขาเลากา ส่งกลิ่นตลบอบอวลอย่างที่เราคาดเอาไว้แต่อย่างใด กระบวนการผลิตและการดูแลสิ่งแวดล้อมก็เป็นไปตามที่ คุณศุภวัฒน์ คุณวรวินิจ กรรมการบริษัทฯ และคุณ ศราวุธ เจตินัย ผู้จัดการฝ่ายเดินระบบ ได้บรรยายเอาไว้ทุกประการ

ดังนั้นการผลิตไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน และยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย !!!

มนูญ ศิริวรรณ

2 ต.ค. 2563