ราคาน้ำมันนั้น สำคัญไฉน

0
198
ทั่วโลกยอมรับว่าน้ำมันเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเติบโตหรือถดถอยทางเศรษฐกิจของประเทศ และเกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ดังนั้นนโยบายด้านราคาน้ำมันจึงเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลทุกประเทศ และการบริหารจัดการเรื่องนโยบายดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและความนิยมในรัฐบาลได้

 

เหตุการณ์ประท้วงใหญ่โดยกลุ่มผู้ประท้วงซึ่งเรียกตัวเองว่า ‘เสื้อกั๊กเหลือง’ ตามสีเสื้อที่พวกเขาใช้เป็นสัญลักษณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศฝรั่งเศสเมื่อเร็วๆนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการบริหารนโยบายราคาน้ำมันที่ล้มเหลวของรัฐบาลประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง

 

โดยในเบื้องต้นพวกเขามุ่งประเด็นต่อต้านการขึ้นภาษีน้ำมันดีเซล ก่อนจะขยายวงความไม่พอใจไปที่เรื่องค่าครองชีพ โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทและเรื่องนโยบายของนายมาครง

 

การประท้วงเกิดขึ้น 1,600 จุดทั่วประเทศฝรั่งเศส รวมมีผู้ประท้วงมากกว่า 100,000 คน ส่วนใหญ่เป็นการชุมนุมอย่างสงบ ยกเว้นในกรุงปารีสซึ่งมีผู้ชุมนุมราว 8,000 คน เกิดการปะทะกับตำรวจที่ถูกส่งมารักษาความปลอดภัยประมาณ 5,000 นาย ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 19 ราย รวมทั้งตำรวจ 4 นาย และมีผู้ถูกจับกุม 40 คน
ราคาน้ำมันในฝรั่งเศสแพงตามมาตรฐานของประเทศในยุโรปอยู่แล้ว โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลซึ่งใช้กับรถยนต์เป็นส่วนใหญ่ และถือว่าเป็นน้ำมันที่ปลดปล่อยมลภาวะสูง ราคาน้ำมันดีเซลจึง เพิ่มขึ้นถึง 23% ตลอดช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เป็นเฉลี่ย 1.51 ยูโรต่อลิตร (ราว 56.6 บาท) สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 หลังรัฐบาลมาครงขึ้นภาษีไฮโดรคาร์บอนในปีนี้ 7.6 เซนต์ต่อลิตรสำหรับดีเซลและ 3.9 เซนต์ต่อลิตรสำหรับเบนซิน เพื่อสนับสนุนแคมเปญรถยนต์และเชื้อเพลิงสะอาด

 

ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เกิดการประท้วงคือ การตัดสินใจขึ้นภาษีอีก 6.5 เซนต์ต่อลิตรสำหรับดีเซล และ 2.9 เซนต์ต่อลิตรสำหรับเบนซิน ในวันที่ 1 ม.ค. 2562 โดยมาครงโทษว่าเป็นเพราะราคาน้ำมันโลกเพิ่มสูงขึ้นในไตรมาสที่ 3.

 

โครงสร้างราคาน้ำมันของฝรั่งเศสเมื่อเดือนพ.ค. 61 ราคาน้ำมันเบนซิน 95 อยู่ที่ 1.53 ยูโร/ลิตร หรือ 57.33 บาท/ลิตร เป็นภาษีเสีย 35.20 บาท/ลิตร หรือเท่ากับ 61.4% ในขณะที่บ้านเราราคาลิตรละ 36.52 บาท เป็นภาษีและกองทุนฯต่างๆ 15.95 บาท/ลิตร หรือ 44%

 

ส่วนดีเซลของฝรั่งเศสราคา 1.45 ยูโร/ลิตร หรือ 54.33 บาท/ลิตร เป็นภาษี 31.84 บาท/ลิตร เท่ากับ 58.6% ในขณะที่บ้านเราราคาลิตรละ 28.79 บาท มีภาษีและกองทุนฯอยู่ 8.43 บาท/ลิตร หรือ 29%

 

จะเห็นได้ว่าอัตราภาษีน้ำมันของบ้านเราที่ว่าแพงแล้ว ของฝรั่งเศสยังทิ้งเราหลุดลุ่ยเลยทีเดียว ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมคนฝรั่งเศสจึงออกมาประท้วงรัฐบาลประธานาธิบดีมาครงอย่างมากมายและเอาจริงเอาจังในครั้งนี้

 

เพราะนอกจากจะถูกพิษราคาน้ำมันแพงเล่นงานตามราคาที่ขึ้นไปตามราคาในตลาดโลกแล้ว ยังถูกรัฐบาลซ้ำเติมด้วยการขึ้นภาษีเพื่อสนองนโยบายรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาดอีกด้วย

 

ไม่เหมือนกับประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯที่ดำเนินนโยบายต่างประเทศบีบซาอุดิอาระเบียให้ผลิตน้ำมันดิบออกมามากๆ โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการทดแทนน้ำมันที่จะขาดหายไปจากอิหร่าน เพราะมาตรการคว่ำบาตรทางการค้าของสหรัฐฯ พอซาอุดิอาระเบียหลงเชื่อ ผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น สหรัฐฯก็พลิกกลับไปผ่อนผันให้ลูกค้าของอิหร่านสั่งซื้อน้ำมันจากอิหร่านต่อไปได้อีกหกเดือน

 

ทำให้สถานการณ์น้ำมันเปลี่ยนจากขาดตลาดกลับมาเป็นล้นตลาด และกดดันราคาน้ำมันให้ลดลงอย่างรวดเร็วถึง 30% ภายใน 7 สัปดาห์ ทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์นำไปหาเสียงกับคนอเมริกัน ถือเป็นเครดิตของตัวเองที่ทำให้ราคาน้ำมันถูกลง โดยทวีตข้อความผ่านทวีตเตอร์ว่า “thank you President T”
นับว่าทรัมป์เหนือชั้นกว่ามาครงมากจริงๆในเรื่องการบริหารราคาน้ำมัน และน่าจะเป็นประธานาธิบดีคนแรกด้วยที่กล้าชมตัวเองตรงๆ อย่างไม่ต้องอ้อมค้อมเลยทีเดียว !!!

 

มนูญ ศิริวรรณ
7 ธ.ค. 2561
สามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่ : https://bit.ly/3dCdAmZ