เรามาถึง “จุดเปลี่ยน” การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า

0
484

ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จำนวนยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีความพยายามที่จะพัฒนาการชาร์จไฟรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น

จากสถิติของ IEA ในปี 2010 ทั่วโลกมียานยนต์ไฟฟ้าที่ถูกใช้จริงบนถนน 17,000 คัน และเมื่อปีที่แล้ว 2019 ตัวเลขพุ่งพรวดขึ้นมาอยู่ที่ 7.2 ล้านคัน โดย 47% ของจำนวนนี้เป็นผู้ใช้รถในจีน นอกจากนี้ Ashwani Gupta CEO ของนิสสันกล่าวว่า จำนวนผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการสนับสนุนจากรัฐบาลและโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคสมัยของยานยนต์ไฟฟ้าขึ้นมาได้

ในหลายประเทศก็พยายามผลักดันการเพิ่มทางเลือกในการชาร์จไฟฟ้าให้ผู้บริโภค เช่น

?? อังกฤษ ประกาศแผนการยุติการจำหน่ายรถยนต์และรถตู้ใหม่ ทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล ตั้งแต่ปี 2030 เป็นต้นไป และเริ่มมีการนำป้ายทะเบียนพิเศษสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้เพื่อให้สังเกตเห็นได้ง่ายขึ้น เป็นการกระตุ้นเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนให้ตระหนักถึงยานพาหนะรักษ์โลก นอกจากนี้ยังมีแรงจูงใจอื่นๆ ให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าอีกมาก เช่น ค่าจอดรถถูกกว่า และไม่ต้องเสียค่าเข้า “เขตปลอดการปล่อยคาร์บอน”

?? เดนมาร์ก จะเลิกจำหน่ายรถยนต์เครื่องยนต์เบนซินและดีเซลในปี 2030

?? นอร์เวย์ ประกาศให้รถยนต์ใหม่ที่เริ่มจำหน่ายในปี 2025 ทุกคันต้องปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Zero Emission) นอกจากนี้ นอร์เวย์ยังเป็นประเทศหนึ่งที่มีผู้ใช้รถไฟฟ้าจำนวนมาก ปัจจุบันมีจุดชาร์จไฟฟ้าสาธารณะกว่า 10,000 จุด

ที่มา https://www.cnbc.com/…/weve-reached-turning-point-on…

#ERSFellowship #เข้าใจเพื่อไปต่อ #รถยนต์ไฟฟ้า

แสงดความคิดเห็นได้ที่: https://www.facebook.com/ERSFellowship/photos/a.299602063583142/1521150518094951/